Search

คนวัยเกษียณ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องวางแผนทางการเงิน - Businesstoday

tablo.prelol.com

เขียนโดย : เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

- Advertisement -

การออม การลงทุน รวมถึงความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมหรือ Mindset ของ คนวัยเกษียณ วัยที่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีรายได้แบบ active กันเท่าไหร่แล้ว แต่รายจ่ายจะยังคงมีอยู่ หลักๆ ก็คงจะเป็นค่าบริโภค ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นหลัก และเป็นวัยที่จะต้องเริ่มส่งต่อความมั่งคั่งให้กับรุ่นต่อไปด้วย แต่เราต้องไม่ลืมว่าวัยเกษียณของคนสมัยนี้มันค่อนข้างจะยาวนานกว่าคนยุคก่อนจากความก้าวหน้าทางการแพทย์

ดังนั้น เราจะต้องวางแผนการเงินให้รัดกุม ไม่เช่นนั้นแล้วเงินที่เก็บไว้ใช้ในวัยเกษียณอาจจะไม่เพียงพอ และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องวางแผนทางการเงินเท่านั้น คนวัยเกษียณก็ควรที่จะหาอาชีพเสริมทำด้วยเช่นกัน เรื่องเงินเป็นผลประโยชน์ทางอ้อมแต่ผลประโยชน์ทางตรงคือเรื่องของสังคม การมีเพื่อนร่วมงานและยังได้ใช้ความคิดและการตัดสินใจทำให้ลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์และภาวะซึมเศร้าได้

และสุดท้าย เป็นเรื่องของความภูมิใจ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยอยู่บ้านเฉยๆ เราอาจจะรู้สึกเห็นค่าในตัวเองน้อยลง คงจะไม่ดีถ้าเราจะสบายกายแต่ไม่สบายใจ มาดูกันว่า คนวัยเกษียณ 60+ ขึ้นไปควรมีวิธีและข้อคิดในการออมอย่างไร

อย่าลงทุนเสี่ยงเกินไป และปลอดภัยเกินไป

เข้าถึงวัยเกษียณแล้ว ไม่ควรลงทุนอะไรที่มันเสี่ยงเกินไป คำว่าลงทุนให้ครอบคลุมไปถึงการลงทุนในการทำธุรกิจจริงด้วย เช่น อาจจะมีคนเห็นว่าเราเพิ่งเกษียณคงจะมีเงินเก็บพอสมควรก็มาชวนไปลงทุนอะไรที่ออกแนวแชร์ลูกโซ่เลย โดยเอาผลตอบแทนที่สูงเกินจริงไปมากมาเป็นตัวล่อ ในภาวะดอกเบี้ยต่ำแบบทุกวันนี้ การเอาผลตอบแทนสูงๆ มาล่อแต่สุดท้ายก็กลายเป็นศูนย์ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

วิธีลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับ คนวัยเกษียณ ก็น่าจะเป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีการจัดพอร์ตการลงทุนที่มีความเสี่ยงที่เหมาะสมกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่คนและความจำเป็นในการใช้เงินมากกว่า

ส่วนที่บอกว่าอย่าลงทุนที่ปลอดภัยเกินไป หมายถึงสินทรัพย์ที่เราไปลงทุน ถ้ากลัวความเสี่ยงจนเกินเหตุเอาแต่ฝากเงินไว้ในบัญชีฝากประจำ ความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นต่ำ ซึ่งมันปลอดภัยมากก็จริง แต่ผลตอบแทนมันก็ต่ำสุดๆ เช่นกัน ปัจจุบัน ดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทย (ดอกเบี้ยนโยบายลบด้วยเงินเฟ้อ) ต่ำมาก อยู่ที่ระดับ 0.05%  (0.75% – 0.7%) เท่านั้น

ถ้าเราวางแผนเกษียณไว้ถึงอายุ 80 ปี แต่เรากลับอยู่ได้ถึง 90 ปี เงินเกษียณก้อนนั้นคงไม่เพียงพออย่างแน่นอน เราควรจะมีการกระจายการลงทุน มีทั้งเงินฝาก ตราสารหนี้ และกองทุนที่ลงทุนในหุ้น แต่สัดส่วนของกองทุนหุ้นไม่จำเป็นจะต้องสูงมากเหมือนตอนก่อนเกษียณ

ทำงานไปด้วยมีสังคมไปด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้

เกษียณแล้วก็ควรจะยังต้องหาอะไรทำอยู่ จากตอนที่แล้วที่ได้แนะนำว่า ควรหาอาชีพรองรับสำหรับ คนวัยเกษียณ ในช่วงที่เราอายุ 50+ ที่แนะนำว่าคนวัยเกษียณยังควรจะต้องทำงานอยู่ มันเป็นมากกว่าเรื่องของเงิน เป็นเรื่องของสุขภาพร่างกายและสุขภาพของจิตใจเสียมากกว่า การอยู่บ้านเฉยๆ วันๆ ไม่ทำอะไรมาก เน้นเล่นFacebook, Line หรือดู Netflix ช่วงแรก ๆ ก็คงจะมีความสุขดี

แต่พอผ่านไปสักพักก็คงจะเริ่มเบื่อกัน คนเคยทำงานมาร่วมๆ 40 ปี จะให้อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยก็คงจะแปลกๆ การมีงานทำสำหรับคนวัยเกษียณไม่จำเป็นต้องทำเต็มเวลาหรือได้ค่าจ้างในระดับสูง แต่เป็นงานที่ทำให้เราได้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ได้ยืดเส้นยืดสาย มีเพื่อนคุย มีสังคม ได้ใช้สมองในการตัดสินใจ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คนวัยเกษียณไม่แก่เร็วและยังมีความภูมิใจในตัวเองด้วย อายุมากแต่ก็ไม่เป็นภาระให้ใคร สุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็จะดีตาม แถมมีรายได้มาช่วยค่าใช้จ่ายอีกด้วย

รู้จักประมาณตน

ว่ากันตามตรงคงจะไม่มีใครอยากแก่อยู่แล้ว แต่มนุษย์เราก็ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักตัวเอง รู้จักประมาณตน อะไรที่ไม่ควรทำก็อย่าไปทำ อะไรที่ไม่ควรกินก็อย่าไปกิน เน้นทานผักมากกว่าเนื้อสัตว์ หมั่นออกกำลังกายที่ไม่หนักมาก กิจกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลียงหรือลดลงได้ก็ควรทำ เช่น การขับรถยนต์ส่วนตัว ถ้ายังไหวอยู่ก็ขับอย่าเร็วมาก แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็เน้นใช้บริการสาธารณะน่าจะสะดวกและปลอดภัยกว่า รู้จักประมาณตนไว้ลูกหลานจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ตัวเราเองก็จะไม่ลำบาก

สรุป

สิ่งที่เราต้องทำมาตลอดร่วม 40 ปี ก็เพื่อที่จะมีวัยเกษียณที่สดใสและได้เห็นลูกหลานมีอาชีพการงานที่มั่นคง กว่าจะมาถึงวัยเกษียณที่มีพร้อมทั้งความมั่งคั่งและสุขภาพที่ดีได้ ต้องอาศัยเวลา ความอดทน และวินัย เป็นอย่างมาก ประเทศไทยถือว่าพร้อมมากสำหรับเครื่องมือในการออมและการลงทุน มีพร้อมทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนทั้งแบบลงทุนปกติและลดหย่อนภาษี ETF และตราสารหนี้ อยู่ที่ตัวเราแล้วว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ และจริงจังกับมันมากแค่ไหน เวลามันผ่านไปเร็วมาก

สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายดอกเบี้ยในระดับต่ำมาก เงินเฟ้อของไทยอยู่ต่ำกว่า 1% เราไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง สิ่งที่พอจะทำได้คือ การวางแผนทางการเงิน ปฏิบัติตามแผนอย่างมีวินัย และมีการปรับเปลี่ยนแผนไปตามสถานการณ์อยู่เป็นระยะ ๆ

ในอดีตเราจะยกย่องคนที่ฉลาด เพราะมี IQ หรือความฉลาดทางสติปัญญาสูง ต่อมา เราเริ่มที่จะยกย่องคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเพราะมี EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์สูง ในยุคปัจจุบัน ความฉลาดเพียง 2 สิ่งอาจจะไม่เพียงพอแล้ว จะต้องมีความฉลาดทางการเงินด้วย หรือ FQ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อาจจะส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของหลายๆ คนปรับลดลงรวมถึงผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ผมแนะนำว่าอย่าใจเสียหรือกังวลมากเกินไป สถานการณ์การแพร่ระบาดอยู่ในแนวโน้มที่ดีขึ้นและในอนาคตที่ไม่ไกลก็คงจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพออกมา ตลาดการเงินทั่วโลกก็จะมีความเชื่อมั่นที่มากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ความผันผวนลดลงไปด้วยเช่นกัน ขอให้ยึดมั่นในวินัยและมองเป้าหมายระยะยาวไว้เป็นหลัก

คนวัยเกษียณ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องวางแผนทางการเงินเหมือนคนทุกวัย ห้ามประมาทหรือมองข้ามเด็ดขาด วัยเกษียณมันอาจจะยาวนานกว่าที่คิดและค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็อาจจะสูงกว่าที่เราคิดเช่นกัน “พรสวรรค์” เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่ “วินัย” เราสร้างมันขึ้นมาได้ ในบทความหน้าจะมาต่อด้วย “การออมและการลงทุนที่เหมาะสมกับคนวัยเกษียณต่อปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป” ครับ

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เล่าความจริงนโยบายพักต้นพักดอกของธนาคารและเราควรจะใช้มันหรือไม่??

Let's block ads! (Why?)



"จะต้องเป็น" - Google News
April 28, 2020 at 05:55AM
https://ift.tt/3bIUA6n

คนวัยเกษียณ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องวางแผนทางการเงิน - Businesstoday
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update

Bagikan Berita Ini

0 Response to "คนวัยเกษียณ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องวางแผนทางการเงิน - Businesstoday"

Post a Comment

Powered by Blogger.