รีสตาร์ตธุรกิจเฟสแรก
ดีเดย์3พ.ค.ทั่วประเทศ
หมายเหตุ – ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงมาตรการผ่อนปรนกิจการบางประเภทที่ได้สั่งห้ามก่อนหน้านี้ ให้สามารถเปิดบริการได้ ที่ศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 30 เมษายน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
โฆษก ศบค.
ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. รายงานข้อสรุปที่จะเป็นการเดินหน้าต่อในมาตรการต่างๆ นายกฯได้เน้นย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้ตัดสินใจร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน ทั้งในเรื่องของการระบาดและผลกระทบทางเศรษฐกิจ
หากสามารถควบคุมสถานการณ์ทางด้านสาธารณสุขในระยะแรกนี้ได้ ก็จะมีการดำเนินมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อๆ ไปได้ แต่ถ้าควบคุมได้ไม่ดีทุกอย่างอาจจะแย่ลง ทุกคนเข้าใจดีว่าภารกิจนี้อาจจะเป็นงานที่ยาก ท้าทาย แต่หากทุกคนโดยเฉพาะผู้ประกอบการ ผู้รับบริการ และประชาชนร่วมมือกันด้วยความตั้งใจ มุ่งเน้นในเรื่องของการป้องกันตนเองและผู้อื่น มีสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศต้องร่วมมือกัน มาตรการครั้งนี้จึงจะสำเร็จได้
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการบางอย่างที่ต้องตรึงไว้ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะประกาศต่อไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม และจะมีมาตรการบางอย่างที่หย่อนลงมาบ้าง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ที่เหลือหลักหน่วย แต่การผ่อนคลายล้วนมีผลต่อตัวเลขของผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น เพราะการผ่อนคลายเกี่ยวข้องกับคนที่เป็นพาหะของโรค หากผ่อนมากไปการติดเชื้อจะเหมือนกับประเทศข้างเคียงที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนต้องกลับมาตรึงมาตรการ
สำหรับมาตรการที่ยังตรึงไว้นอกเหนือจากการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมี 1.มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00-04.00 น. 2.การเข้า-ออกราชอาณาจักรทั้งทางบก น้ำ อากาศ 3.จำกัดการบินเข้า-ออกระหว่างประเทศ โดยอนุญาตเฉพาะสายการบินที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าและรับคนไทยกลับประเทศออกไปอีก 1 เดือน 4.งดหรือชะลอการข้ามจังหวัดโดยที่ไม่มีเหตุจำเป็น และ 5.ยึดแนวทางทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50 และไม่ให้ประชาชนเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากเป็นการชั่วคราว
ส่วนมาตรการผ่อนปรนที่จะเกิดขึ้น จะมีการกำหนดมาตรฐานกลางของแต่ละกิจกรรมที่ทุกพื้นที่ต้องยึดถือปฏิบัติ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดรายละเอียดแต่ละพื้นที่กันไป จะเข้มข้นกว่าสามารถกำหนดได้ แต่จะน้อยกว่ามาตรฐานกลางทำไม่ได้ โดยแนวทางการดำเนินการจะคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และนำปัจจัยด้านสังคม และเศรษฐกิจมาประกอบการพิจารณา เพราะการติดต่อของโรคหน่วยงานด้านสาธารณสุขจะรู้ดีที่สุด
กลุ่มกิจกรรมแรกที่ได้รับความเห็นชอบจาก ผอ.ศบค.และทีมงานมี 6 กลุ่ม ที่จะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ได้แก่
1.ตลาด ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
2.ร้านจำหน่ายอาหาร อาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า) ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่
3.กิจการค้าปลีกส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง ยืน รับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อย ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านค้าปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
4.กีฬา สันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีม และไม่ได้มีการแข่งขัน เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม
5.ร้านตัดผม เสริมสวย เฉพาะตัด สระ ไดร์
6.อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
จะใช้ช่วงเวลา 14 วันหลังจากนี้คอยติดตามประเมินผลอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีตัวเลขคงที่ไปเรื่อยๆ แสดงว่าประชาชนให้ความร่วมมือดี รู้วิธีจัดการตัวเอง จัดกิจการ กิจกรรมได้ดี ก็จะได้เลื่อนไปในกิจกรรมอื่นๆ ได้มากกว่านี้ แต่ถ้าใน 14 วันนี้ตัวผู้เลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก สามหลัก ต้องยอมรับว่าจะต้องถอยหลังกลับมาตรึงกิจการ กิจกรรม ต้องถูกทบทวนใหม่หมด ดังนั้นทุกคนต้องมีส่วนร่วมทั้งหมด ตามหลักการต้องร่วมมือให้ได้มากกว่า 90%
ช่วงเวลานี้มีความสำคัญยิ่ง หลายประเทศเพลี่ยงพล้ำนิดเดียวจนกลับมาระบาดเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ไม่ต้องการความเสี่ยงแม้แต่น้อย เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุดของเรา ขอให้พวกเราประสบความสำเร็จเหมือน 1 เดือนที่ผ่านมา
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
จากการคาดการณ์ของประเทศไทย ขณะนี้มีสถิติผู้ป่วยใหม่ประมาณวันละ 7-9 ราย มาเป็นระยะเวลา 4 วัน และมีผู้ป่วยที่ยังอยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) เพียง 213 ราย
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากมาตรการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ศบค.ได้ดำเนินการในการจัดสถานที่กักกันที่รัฐบาลจัดไว้ (State quarantine) จึงทำให้ผู้ป่วยจำนวนน้อยลง เพราะถ้าหากไม่มีสถานที่กักกันตามที่ดำเนินการนั้น คาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 1 หมื่นราย
ขณะนี้สถิติของประเทศไทยพบผู้ป่วยใหม่หลักไม่เกิน 10 ราย พร้อมทั้งยังมีการควบคุมผู้เดินทางเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงคิดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยด้านมาตรการผ่อนปรนจะเป็นไปได้ด้วยดี และยังคงต้องดำเนินตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ดูแลตัวเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ รวมถึงการหลีกเลี่ยงที่ชุมชน กิจกรรมต่างๆ
ทางคณะทำงานจะพยายามปรับเพื่อให้มีการดำเนินการที่ง่ายที่สุด มีผลกระทบน้อยที่สุด ในระยะแรก คาดว่าจะดำเนินการได้ทันที โดยในระหว่างนี้ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือ หน่วยงานภาคเอกชนยังต้องมีมาตรการทำงานที่บ้าน (work from home) หลีกเลี่ยงการออกมาสู่ที่ชุมชน การใช้รถสาธารณะ หากดำเนินการได้ดี ภายในระยะเวลา 14 วัน จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ไม่น่าจะเพิ่มเกิน 20-30 ราย และหากระยะที่ 1 ดำเนินการไปแล้วพบผู้ป่วยในจำนวน 20-30 ราย ก็จะสามารถดำเนินการในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไปได้
ทศพร ศิริสัมพันธ์
เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ขั้นตอนการดำเนินงานของ สศช. ได้วิเคราะห์ความเสี่ยงแบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 คือ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงน้อย อาทิ ตลาด ร้านจำหน่ายอาหาร กิจการค้าปลีก-ส่ง ร้านตัดผมเสริมสวย และกีฬาสันทนาการ จะเริ่มเปิดกิจการในวันที่ 3 พฤษภาคม โดยจะใช้เวลาประเมินสถานการณ์ภายใน 14 วัน ก่อนจะพิจารณาให้เปิดกิจการในระยะที่ 2 ต่อไป การจัดคอนเสิร์ต และสนามมวยจะจัดอยู่ในระยะที่ 4 ส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงจะถูกจัดอยู่ในระยะที่ 2-3 อาทิ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้า เป็นต้น
ในการกลับมาเปิดกิจการต่างๆ จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งต้องขออนุญาตจากทางราชการในท้องถิ่นออกคิวอาร์โค้ด เพื่อนำไปติดยืนยันความปลอดภัยที่หน้าร้าน ประชาชนที่มาใช้บริการจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านมือถือ เพื่อให้ทางร้านคีย์ข้อมูลสำหรับติดตามตัวผู้มาใช้บริการได้ หากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับประชาชนที่ไม่สะดวกในการสแกนคิวอาร์โค้ด พนักงานประจำร้านจะต้องเป็นผู้คีย์ข้อมูลให้
ทั้งนี้ การที่จะสามารถเปิดดำเนินธุรกิจในระยะที่ 2 ได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับระยะที่ 1 ว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ระหว่างนี้ทุกห้างร้านต้อง
เตรียมพร้อมในการเปิดกิจการควบคู่ไปด้วย
กลินท์ สารสิน
ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
สําหรับร้านค้าประเภทพวกหาบเร่แผงลอยและร้านขายเสื้อผ้าในวันที่ 3 พฤษภาคม สามารถเปิดทำการค้าได้ทั้งหมด แต่ต้องรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร คนขายต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับลูกค้าต้องสวมใส่และรักษาระยะห่างเช่นกัน ในส่วนของการทานอาหารหากมีการมาทานที่ร้านเป็นครอบครัวต้องรักษาระยะห่าง แต่ในช่วงนี้ยังแนะนำให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย
สำหรับร้านอาหารที่อนุญาตในมีการนั่งทานที่ร้านได้ ต้องเป็นร้านขนาดไม่เกิน 2 คูหา ตามคำจำกัดความของกระทรวงพาณิชย์ ช่วงนี้อาจมีการจำกัดที่นั่งในร้านเพื่อรักษาระยะห่าง ในส่วนของร้านชาบูเปิดได้แต่ต้องนั่งทานห่างๆ หรือต้องแยกหม้อ โดยรวมการปฏิบัติยังอยากให้ซื้อกลับไปกินที่บ้าน ในช่วงแรกร้านเล็กที่ไม่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ ควรจะต้องมีการถามผู้ใช้บริการว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง มีไข้ไหม เพื่อปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ส่วนของเฟสแรกที่มีการผ่อนปรนซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย เพราะตอนนี้ได้มีการกำหนดกติกาที่ชัดเจนมากขึ้น อาทิ ผู้มาใช้บริการต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ซุปเปอร์มาร์เก็ตจึงถูกบรรจุอยู่ในกลุ่มที่เปิดในระยะแรกด้วย ในส่วนของร้านอาหารขนาดใหญ่ ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ
ร้านที่อนุญาตให้เปิดในระยะที่ 1 หากมีการติดเครื่องปรับอากาศทางร้านควรติดเครื่องดูดอากาศ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในร้าน นอกจากนี้ จะมีการกำหนดมาตรการหลักและมาตรการเสริม รวมถึงมีคู่มือกำหนดข้อมูลกลางให้แต่ละธุรกิจได้ปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้ายังไม่มีการเปิดให้บริการแบบนั่งทานที่ร้านแต่อย่างใด
ขณะที่ธุรกิจถนนคนเดินจะมีมาตรการควบคุมคล้ายๆ กับที่ผ่านมา คือ ต้องขอให้ผู้ประกอบการทิ้งระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย คนจัดสถานที่ต้องจัดระยะห่างที่แตกต่างจากปกติ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย หากพบมีการไม่ปฏิบัติตาม จะมีการตักเตือนยังไม่มีการเอาผิดทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเวิร์กฟรอมโฮม จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นต่อไป
"จะต้องเป็น" - Google News
May 01, 2020 at 06:27PM
https://ift.tt/2VSuKad
รายงานหน้า 2 มติชนรายวัน : รีสตาร์ตธุรกิจเฟสแรก ดีเดย์3พ.ค.ทั่วประเทศ - มติชน
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รายงานหน้า 2 มติชนรายวัน : รีสตาร์ตธุรกิจเฟสแรก ดีเดย์3พ.ค.ทั่วประเทศ - มติชน"
Post a Comment