Search

“มนัญญา" ลั่น ขรก.ต้องร่วมรับผิดชอบ หากเกษตรกรโดนจับ ส่งคืนสารพิษไม่ทัน 90 วัน - สยามรัฐ

tablo.prelol.com

“มนัญญา ลั่น ขรก.ทุกคนร่วมรับผิดชอบ หากเกษตรกรโดนจับ ส่งคืนสารพิษไม่ทันภายใน 90 วัน ขู่อย่าเกิดเหตุนี้จะถูกข้อหากลั้นแกล้งเกษตรกร ระบุสต็อกสารเหลืออีกกว่า 2.1 หมื่นตัน ปัดข่าวลือ ขยายแบนเวลาสาร

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการประชุมและมอบนโยบายการแบนสารเคมีการเกษตร คลอร์ไพริฟอส พาราควอต เป็นวัตถุอันตรายประเภท4 (วอ.4) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย.ว่า ขอให้สารวัตรเกษตร เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯทุกหน่วยงาน จะต้องช่วยกันลงพื้นที่สร้างความเข้าใจเกษตรกร สามารถคืนสารเคมีวัตถุอันตรายชนิดที่4 ให้กับร้านค้าที่ซื้อมาภาย90วัน คือวันที่29ส.ค.63 และให้ร้านค้า รวบรวมแจ้งปริมาณต่อเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่ภายใน120วัน หรือ28ก.ย.63 เพื่อส่งคืนไปยังผู้ผลิตและผู้นำเข้า ซึ่มีหน้าที่ต้องแจ้งปริมาณต่อกรมวิชาการเกษตร ภายใน270วัน หรือวันที่25ก.พ.64และอย่าให้มีข่าวการจับกุมเกษตรกร กรณีคืนไม่ทัน ถ้าเกิดเหตุขึ้น ข้าราชการทุกคนในสังกัดกระทรวงเกษตร ต้องร่วมกันรับผิดชอบถือว่ากลั้นแกล้งให้เกษตรกรต้องเดือดร้อน เพราะเรื่องแบนสารเป็นนโยบายรัฐบาล ให้ประเทศไทยต้องเป็นครัวของโลก ซึ่งจะเป็นได้ประเทศไทยจะต้องสะอาด

“วันนี้ปริมาณ 3 สาร มีจำนวนสต็อกทั้งสิ้นประมาณ 2.1 หมื่นตัน เป็นสารพาราควอต 9 พันตัน ไกลโฟเซส 1.1 หมื่นตัน คลอร์ไพริฟอส 2 พันตัน ขณะที่เวลาเดียวกันปี 62 มี 2.6 หมื่นต้น ซึ่งคนถามว่าทำไมมาเริ่มปฏิบัติการ 1 มิ.ย. ที่ จ.ชัยนาท เพราะว่าเป็นพื้นที่จังหวัดไม่ใหญ่ แต่พบว่ามีสารเคมีวอ.4 จำนวนมาก โดยมีพาราคควอต 4 หมื่นกว่าลิตร ไกลโฟเซส6หมื่นกว่าลิตร คลอร์ไพริฟอส 1 หมื่นกว่าลิตร มีร้านค้าทั้งหมด 218 แห่งที่ขาย 3 สาร พบว่ามีเพียง 2 ร้านค้า ขาย3สารมากกว่า 80% เป็นเจ้าใหญ่ของตลาดชัยนาท ซึ่งตัวเลขสารเคมี ที่เหลือจำนวนมาก คำถามว่าเพราะอะไร หรือเกษตรกร ลดการใช้แล้ว หรือเชื่อตามข่าวลือว่าจะมีการขยายเวลาแบน ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะกฏหมายคือกฏหมาย และก้าวต่อไปของดิฉัน คือสารไกลโฟเซส“รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตจ.ชัยนาท มีพื้นที่ปลูกข้าวมากถึง9แสนกว่าไร่ หรือ75%ของพื้นที่แต่ทำไมมีการขายพาราควอต จำนวนมากทั้งๆห้ามใช้ในข้าว ผัก และผลไม้ เพราะฉะนั้นกรณีการอบรมเกษตรกรใช้สารเคมี ของกรมวิชาการเกษตร ต้องเปลี่ยนใหม่ ไม่ใช่มาอบรมเพื่อได้สิทธิ์ซื้อสารเคมี ต้องแยกอบรมเป็นรายพืชที่ใช้จริงเท่านั้นไม่ใช่อบรมไปทั่ว ทำไปเพื่ออะไรเอาเกษตรกรปลูกข้าวมา อบรมใช้พาราควอต มันเป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่

“ต่อไปบริษัทที่จำหน่ายสารเคมี ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่ใช้พอมีสารตกค้าง ก็โทษว่าเกษตรกร ใช้ไม่เป็น ซึ่งจากนี้จะเดินสายในหลายจังหวัด เพื่อให้เกิดธุรกิจที่เอื้อกันดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ในวันที่9มิ.ย.ดิฉันไปหารือร่วมกับ สภาหอการค้า อุตสาหกรรมอาหาร ที่เรียกร้องให้ขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป อ้างว่ากระทบวัตถุดิบนำเข้ามาแปรรูปอาหารทั้งคนและสัตว์ ซี่งดิฉันต้องการความชัดเจนว่ามาตรฐานการผลิตเป็นอย่างไรและกระทบอย่างไร เพราะเรื่องแบนสาร ไม่ใช่รัฐมนตรี มนัญญา ทำคนเดียว ที่เกิดขึ้นได้มาจากทุกคนต้องการอาหารปลอดภัย สุขภาพที่ดี จึงเกิดความร่วมแรงรวมใจ ทั้งกระทรวงเกษตรฯกระทรวงสาธารณสุข ที่ผลักดันอย่างหนักมาโดยตลอดจนมาถึงวันนี้”น.ส.มนัญญา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเลิกใช้สารเคมีอย่างไร น.ส.มนัญญา กล่าวว่า มาตรการการลด ละ เลิกใช้สารเคมี กระทรวงเกษตรฯได้ทำ5ปีแล้ว เมื่อไม่มีการนำเข้ามา จะไม่เกิดกรณีมีการซื้อหลังร้าน ซี่งประกาศวันที่ 1 มิ.ย. ทุกคนต้องส่งคืน ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร ทำเกษตรทางเลือกอื่นๆโดยกรมวิชาการเกษตร ได้เตรียมไว้แล้ว รวมทั้งสารเคมี ทดแทน มีประมาณ 16 ชนิด ตนไม่อยากลงรายละเอียดว่าชนิดใดเป็นอย่าวไร เพราะจะโดนข้อครหา รัฐมนตรี เป็นเซลล์ขายยา ออกมาห้ามตัวนั้นแต่ให้ใช้ตัวนี้ จึงไม่ตอบว่าตัวไหนบ้าง และไม่เคยเรียกมาดู ปล่อยให้เป็นเรื่องของนักวิชาการ

ทั้งนี้ ข้อมูลวันที่ 25 พ.ค.63 มีจำนวนร้านค้าขายวัตถุอันตรายและสต็อก 3 สาร ในเขต 5 รวม 19 จังหวัด มีร้านจำหน่าย 4,877 แห่ง ขายเฉพาะ 3 สาร 3,158 ร้าน ซึ่งร้านที่แจ้งจำนวนสต็อกแล้ว 3,158 ร้าน แยกเป็นพาราควอต 700,431 ลิตร ไกลโฟเซส 525,415 ลิตร คลอร์ไพริฟอส 102,609 ลิตร

โดย 19 จังหวัด ประกอบด้วย ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครสวรรค์ ลพบุรี นครนายก นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร อุทัยธานี

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการที่กรมวิชาการเกษตร ได้ปฏิบัติภายหลังประกาศให้ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต เป็นวัถตุอันตรายชนิดที่4 (วอ.4) มีผล 1 มิ.ย.63 จะมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก ครองครอง ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน10ปี หรือปรับไม่เกิน1ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นเมื่อประกาศมีผลในวันนี้ ส่งผลให้ใบทะเบียน ใบอนุญาตผลิต และใบอนุญาตครอบครอง ซึ่งเป็นวัถตุอันตรายชนิดที่ 3 จะสิ้นสุดทันที
ในส่วนแนวปฏิบัติตามคำสั่งของกรมวิชการเกษตร กำหนดให้เกษตรกร ต้องส่งคืนให้ร้านค้าที่ซื้อมาภายใน 90 วัน หรือไม่เกินวันที่ 29 ส.ค.63 สำหรับร้านค้า ต้องส่งคืนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า และแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใน120วัน ไม่เกินวันที่ 28ก.ย.63 นอกจากนี้ผู้ผลิตและผู้นำเข้า แจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ภายใน 270 วัน ไม่เกินวันที่ 25 ก.พ.64 พร้อมกับกำหนดวัน วิธี และสถานที่ในการทำลายให้พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อควบคุมการทำลายสาร

Let's block ads! (Why?)



"จะต้องเป็น" - Google News
June 01, 2020 at 01:14PM
https://ift.tt/2Y29Kht

“มนัญญา" ลั่น ขรก.ต้องร่วมรับผิดชอบ หากเกษตรกรโดนจับ ส่งคืนสารพิษไม่ทัน 90 วัน - สยามรัฐ
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2YEtTvL

Bagikan Berita Ini

0 Response to "“มนัญญา" ลั่น ขรก.ต้องร่วมรับผิดชอบ หากเกษตรกรโดนจับ ส่งคืนสารพิษไม่ทัน 90 วัน - สยามรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.