
เปิดความเสี่ยง THAI จะถูกแขวน SP มากน้อยแค่ไหน หลังเข้าแผนฟื้นฟู ฟากโบรกฯ ประสานเสียงระยะสั้นยังเกิดขึ้นได้ยาก เหตุต้องรอดูงบปีที่จะออกมาต้นปี 64 แต่รับอาจไม่รอดเครื่องหมาย C หากศาลรับคำร้องฟื้นฟูกิจการ-ส่วนผู้ถือหุ้นจ่อต่ำกว่า 50%
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา นักวิเคราะห์และกลยุทธ์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยถึง บมจ.การบินไทย (THAI) ที่นักลงทุนกังวลว่าอาจะต้องถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งหยุดซื้อขาย (SP) หลังจากเข้าแผนฟื้นฟูตาม พรบ.ล้มละลาย ว่า
จากกรณีที่บริษัทได้เลื่อนการส่งงบการเงิน Q1/63 ถือว่าเป็นการถอดสลักชั่วคราว ประเด็นสำคัญคือ การขอเลื่อนส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 63 ออกไป จนถึงวันที่ 14 ส.ค.63 กับตลาดหลักทรัพย์ฯ จากเส้นตายเดิมคือ 15 พ.ค.63 ถือว่าเป็นการถอดสลักที่สำคัญไประยะหนึ่งในประเด็นการที่จะถูกพิจารณาต่างๆ ก็ถูกเลื่อนออกไปโดยปริยาย
โดยความเสี่ยง เมื่อถึงเวลาส่งงบการเงิน มีความเป็นไปได้หลายกรณี อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในแง่ความเสี่ยงเมื่อมีการแสดงบการเงินภายใน 14 ส.ค.63 ก็จะเป็นไปตามกรณีต่างๆ ได้หลากหลายกรณี ดังนี้
- กรณีงบการเงินไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้จะถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งให้หยุดการซื้อขายเป็นเวลา 3 เดือน และเปิดให้กลับมาซื้อขาย 1 เดือน แล้วหยุดการซื้อขายต่อโดยจะต้องแก้ไขงบการเงินให้มีความถูกต้องแล้วเท่านั้น จึงจะกลับมาซื้อขายได้
- กรณีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ ต้องรองบปี เช่น ในงวดสิ้นปี 62 THAI มีส่วนผู้ถือหุ้นเป็น 11,766 ล้านบาท แต่ผลกระทบจากโอกาสที่จะเกิดขาดทุนสุทธิเป็นจำนวนมากจากการหยุดให้บริการการบินจากโรคระบาดโควิด-19 ก็อาจจะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นงวด Q2/63 อาจถึงกับติดลบได้ แต่ปรากฏว่าตามเกณฑ์แล้วจะต้องเป็นงบการเงินสิ้นงวดปี ที่ผ่านการ ตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว ดังนั้นถึงแม้ ณ สิ้น Q3/63 ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบก็จะยังไม่ถูกหยุดการซื้อขาย แต่ก็จะเริ่มมีสัญญาณของความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็น ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะสั่งให้หยุดการซื้อขาย (SP) ไป 1 วันก่อน หลังจากนั้นจะกลับมาให้ซื้อขายหุ้นได้ และติดเครืองหมาย NP (Notice Pending) จนกว่าผู้สอบบัญชีจะกลับมาให้ความเห็นก็จะเปลี่ยนเครื่องหมายเป็น NR (Notice Received)
- กรณีการติดเครื่องหมาย C จะต้องซื้อด้วยบัญชีเงินสดเท่านั้น ตามเกณฑ์แล้ว หากส่วนผู้ถือหุ้นแสดงค่าที่น้อยกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว ซึ่ง ณ สิ้นปี 62 มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วเป็น 21,828 ล้านบาทแสดงว่ากึ่งหนึ่งจะมีค่าเป็น 10,914 ล้านบาท หาก ณ เวลานั้นส่วนผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่า ซึ่งพิจารณาแล้วก็จะมีโอกาสอยู่มาก การเข้าซื้อหุ้น THAI จะต้องซื้อด้วยบัญชีเงินสดเท่านั้น (Cash Balance) อย่างไรก็ตามก็ยังไม่เข้ากรณีจะต้องถึงกับหยุดการซื้อขายหุ้นเลยทีเดียว
- หลักทั่วไปของการขึ้นเครื่องหมาย SP มีหลายกรณี แต่ที่สำคัญคือ มีข้อมูลข่าวสารที่สำคัญที่อาจจะกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุนหรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้รับรายงานจากบริษัท และอยู่ในระหว่างการสอบถามข้อเท็จจริง และรอคำชี้แจงจากบริษัทหรือกรณีบริษัทไม่นำส่งงบการเงินให้ตลาดหลักทรัพย์ภายในเวลาที่กำหนด หรือหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิกถอน หรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานภาพ เพื่อให้พ้นข่ายการถูกเพิกถอน เป็นต้น
ด้านนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่ากระบวนการ Automatic stay ของ THAI จะเป็นผลดีต่อลูกหนี้ในแง่ที่ว่ากิจการของบริษัทยังสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงแรกก็คือราคาตราสารหนี้ของบริษัทในตลาดรองที่อาจได้รับผลกระทบไปก่อน โดยหากดูจากราคาซื้อขายหุ้นกู้การบินไทยในช่วง 1-2 วันนี้ จะพบว่าราคาตกลงมาอย่างน่าใจหาย
ราคาตราสารหนี้ที่ตกลง รวมถึงภาวะ Technical default ที่มีแนวโน้มสูงว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ผู้ที่ถือตราสารหนี้ของ THAI อยู่นั้นอาจเกิดความวิตกกังวลได้ เช่น กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ถือหุ้นกู้รวมอยู่เกือบ 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนทางด้านตราสารทุนนั้น จากการตรวจสอบกับทางตลท.ล่าสุด พบว่าในปีนี้ THAI คงจะยังไม่ถูกให้ขึ้นเครื่องหมาย SP แต่อย่างใด โดยหากจะเกิดขึ้นเร็วสุด ก็อาจจะเป็นช่วงต้นปีหน้าที่จะมีการรายงานงบตรวจสอบ (งบปี) ออกมา ซึ่งถ้าหากออกมาแล้วส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ จะเข้าเกณฑ์การพิจารณาเหตุเพิกถอนทันที
แต่ทั้งนี้ ในช่วงถัดไป หากศาลตอบรับคำร้องการขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท จะทำให้ THAI เข้าเกณฑ์การถูกขึ้นเครื่องหมาย C จากทางตลท.โดยทันที ซึ่งหลังจากนั้น ผู้ลงทุนจะต้องซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยบัญชี Cash Balance เท่านั้น
ประเมินว่าจริงๆแล้ว THAI มีโอกาสที่จะถูกให้ขึ้นเครื่องหมาย C ตั้งแต่รอบรายงานงบการเงินไตรมาส 1/63 นี้แล้วด้วยซ้ำ หากผลออกมาส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว แต่เนื่องจาก THAI ขอยื่นเรื่องผ่อนผันการส่งงบ จึงทำให้ยังไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว (ณ สิ้นปี 62 THAI มีส่วนของผู้ถือหุ้นราว 53% ของทุนชำระแล้ว)
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิดคือความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นกู้เอกชน ที่แต่เดิมทีก็อยู่ในระดับแย่อยู่แล้ว ซึ่งหากมาเจอเหตุการณ์นี้เข้าไปอีก อาจทำให้ Corporate bond spread จะยังยืนอยู่ในระดับสูงต่อไปได้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของบริษัทเอกชนได้ต่อไป
"จะต้องเป็น" - Google News
May 20, 2020 at 10:27AM
https://ift.tt/3g89dCv
โบรกฯมองระยะสั้น THAI ยังไม่โดนขึ้น SP แต่ไม่น่ารอดเครื่องหมาย C - efinanceThai
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2YEtTvL
Bagikan Berita Ini
0 Response to "โบรกฯมองระยะสั้น THAI ยังไม่โดนขึ้น SP แต่ไม่น่ารอดเครื่องหมาย C - efinanceThai"
Post a Comment