ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปไกล แต่ใครจะรู้ว่าระบบการศึกษาของไทยยังก้าวตามไปไม่ทัน เมื่อความเหลื่อมล้ำ ทำให้ความต้องการแม่พิมพ์ของชาติในพื้นที่ห่างไกลยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก
จากการทำงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับภาครัฐ จึงก่อเกิดเป็นโครงการ “ครูรัก(ษ์)ถิ่น” ที่สนับสนุนทุนสร้างโอกาสทางการศึกษา สำหรับนักเรียนยากจนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ที่อยากเป็นครู ให้ได้เรียนครูจนจบปริญญาตรี และกลับไปบรรจุในโรงเรียนท้องถิ่นของตนเอง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา และแก้ปัญหาขาดแคลนครู รวมถึงช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ
ล่าสุด "รศ.ดร.ดารณี อุทัยรัตนกิจ" ประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กสศ. พร้อมด้วย อาจารย์นคร ตังคะพิภพ , ผศ.ดร.พิศมัย รัตนโรจน์สกุล , อาจารย์ประยูร สุธาบูรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันเตรียมผลิต “ครูรัก(ษ์)ถิ่น” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และติดตามความคืบหน้าโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 1 โดยมี ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง คณาจารย์ และนักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น1จำนวน 25 คน ให้การต้อนรับ พร้อมเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการครูรัก(ษ์)ถิ่น,โรงเรียนอนุบาลทานตะวัน แหล่งฝึกประสบการณ์นักศึกษาครูปฐมวัย และ“บ้านไร่รัก(ษ์)ถิ่น” แหล่งพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน และกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้บนฐานเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำแปลงผัก ผลิตน้ำสมุนไพร ลูกประคบ เป็นต้น จากนั้นคณะได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านโป่งกระทิงบน อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อเยี่ยมชมโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งเป็นโรงเรียนปลายทางที่นักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่นจะต้องกลับมาบรรจุเป็นครู
การผลิตครูของสถาบันแห่งนี้ อยู่ภายในความดูแลของ “ดร.เกรียงวุธ นีละคุปต์” คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ในฐานะประธานบริหารหลักสูตรปฐมวัย เปิดหลักสูตร MCRU Model ในการผลิตครู ที่ไม่ใช่แค่เพียงครูที่สามารถสอนหนังสือได้ แต่เป็นครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู ที่พร้อมจะดูแลคนในชุมชนได้ เพราะครูในพื้นที่ห่างไกลต้องเป็นที่พึ่งของชาวบ้านและชุมชน เพื่อช่วยพัฒนาท้องถิ่นโดยแท้จริง
นอกจากนี้ ยังเพิ่มหลักสูตรแนวข้าง ที่จะช่วยให้ครูรัก(ษ์)ถิ่น สามารถจัดกระบวนการเรียนการสอนในอนาคตได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย กลุ่มการงานอาชีพ, ศิลปดนตรี, สังคมศึกษา, ภาษาไทย, ภาษาต่างประเทศ, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และพลศึกษา โดยนักศึกษาจะต้องเรียนหลักสูตรแนวข้างทั้ง 8 สาขาวิชา ตั้งแต่ชั้นปีที่1–4 ไปพร้อมๆ กับการปลูกฝังเรื่องศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงจิตอาสา เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาท้องถิ่นตนเองในอนาคต
ส่วนขั้นตอนการคัดเลือก จะมีกระบวนการค้นหากลุ่มนักศึกษาเป้าหมาย ในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อคัดเลือกนักศึกษาตามกระบวนการคัดกรองจากความต้องการครูในท้องถิ่น โดยนำนักศึกษามาอบรมทำกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกให้ได้จำนวนตามที่ต้องการ โดยแต่ละคนที่ถูกคัดเลือกจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ กสศ. กำหนด คือ มีรายได้ในครัวเรือนรวมกันไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน มีถิ่นฐานอยู่ในภูมิลำเนาที่จะบรรจุเป็นครู
โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น มีเป้าหมายสนับสนุนเด็กยากจนในระดบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีความเป็นอยู่ค่อนข้างยากลำบากให้ได้รับโอกาสเรียนครู โดยเป็นทุนแบบให้เปล่าครบวงจร ที่ กสศ. เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ ตั้งแต่ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายต่างๆ และค่าอุปกรณ์การเรียนที่เด็กจะได้รับโดยตรง และอีกส่วนเป็นการจัดสรรให้กับสถาบันสำหรับดูแลและพัฒนาเด็กตลอดโครงการ ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนจนจบการศึกษา และการติดตามการทำงานในช่วง 6 ปีแรก
“รู้สึกประทับใจผลการดำเนินงานของโครงการ ที่ส่งผลต่อเด็กด้อยโอกาสที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ทำให้สามารถผลิตบุคลการที่จะกลับไปพัฒนาชุมชนต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้คนในชุมชนเกิดความรักในบ้านเกิด หากเป็นไปได้ก็อยากให้มีโครงการดีๆ อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะอย่างน้อยก็ได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตเด็กด้อยโอกาสให้ได้มีชีวิตใหม่ในอนาคต” ดร.เกรียงวุธ กล่าว
"นางสาวขวัญมณี พูลทวี" หรือ "น้องขวัญ" นักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จากจังหวัดราชบุรี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เล่าความรู้สึกของเธอที่ได้รับคัดเลือกว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอค่อนข้างลำบาก เพราะอาศัยอยู่กับย่าเพียง 2 คน พ่อและแม่ไม่มีงานประจำทำ รวมถึงไม่เคยส่งเสียให้เธอได้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ เธอต้องตามไปช่วยย่าขายของตามตลาดนัดเพื่อเป็นรายได้ หลังจากที่ย่าเริ่มป่วยทำให้ไม่มีเงินเรียนจนต้องกู้เงิน กยศ.เรียนในช่วงมัธยมปลาย หากไม่ได้ทุนจากโครงการนี้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะได้เรียนต่อหรือไม่ แต่โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ทำให้เธอมั่นใจว่าจะมีงานทำ และสามารถอยู่ดูแลย่าของเธอได้อย่างแน่นอน
“ความตั้งใจของหนู คือ อยากกลับไปพัฒนาบ้านเกิด และพัฒนาเด็กในชุมชน ให้เขาได้มีทักษะในการใช้ชีวิต อยากกลับไปเป็นครูคนแรกของเด็กๆ เมื่อเขาเห็นครูที่ดีเป็นตัวอย่าง เขาก็จะเป็นคนดี เมื่อเราได้รับโอกาสแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนมาอยู่ในโครงการนี้”
น้องขวัญ กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อ กสศ. ว่า รู้สึกดีใจที่มีโครงการดีๆ อย่างนี้ ทั้งๆ ที่ กสศ. ไม่จำเป็นต้องเข้ามาช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสแบบเธอ แต่ กสศ. กลับมีแนวคิดที่ดี ที่อยากจะพัฒนาประเทศด้วยการให้โอกาสชุมชนเล็กๆ ได้เติบโต
“ผมเข้ามาในโครงการนี้เพราะความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็นครู เป็นความฝันตั้งแต่วัยเด็ก เพราะความประทับใจคุณครูที่ดูแลผมมา จนทำให้รู้สึกรักในวิชาชีพครู” นายชิตพล ศรียาอาจ หรือ น้องแชมป์ นักศึกษาในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จาก จ.เพชรบุรี กล่าวด้วยความภูมิใจ
เพราะความยากจน ที่ต้องช่วยที่บ้านทำงานตั้งแต่เด็ก เพื่อส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ เพราะอาศัยอยู่กับลุง และน้า ที่เปรียบเสมือนพ่อแม่บุญธรรม รวมถึงเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของทางบ้าน ทำให้เกิดความสนใจในการเข้าร่วมโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จนสามารถผ่านการคัดเลือก พร้อมความมุ่งมั่นจะนำความรู้ที่ได้รับกลับไปพัฒนาโรงเรียนบ้านเกิดต่อไป โดยเฉพาะการพัฒนาเด็กๆ ในชุมชน ให้มีคุณธรรม จริยธรรม สำนึกรักบ้านเกิด เพื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และพร้อมจะกลับมาพัฒนาท้องถิ่นตัวเองต่อไปเช่นเดียวกับตนเอง
ด้วยฐานะทางบ้านยากจน จึงต้องอยู่กันเพียงลำพังกับน้อง 2 คน เพราะพ่อ-แม่ต้องออกไปหางานทำที่ต่างจังหวัดในแถบภาคเหนือ ทำให้นางสาวธัญมน แก้วกระโทก หรือน้องมด นักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จาก จ.จันทบุรี ต้องทำงานหาเงินเองตั้งแต่ยังเด็ก รองเท้านักเรียนสักคู่ยังซื้อไม่ได้ การได้เข้ามาอยู่ในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ทำให้เธออยากกลับไปพัฒนาท้องถิ่น อยากกลับไปพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับของคนในหมู่บ้าน ช่วยทำให้คนในชุมชนมีชีวิตที่ดีมากกว่าที่เคยเป็น
“กว่าจะเข้ามาอยู่ในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ค่อนข้างยากลำบาก เพราะมีการคัดเลือกหลายรอบ แต่สุดท้ายพอได้รับเลือก ก็รู้สึกดีใจมาก ดีใจที่เรากำลังจะมีอนาคตที่ดี จะมีงานทำ และทำให้พ่อแม่สบายขึ้น เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องลำบากอีก” น.ส.ธัญมน กล่าว
นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 1 ที่กำลังก่อร่างสร้างครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูอย่างแท้จริง ที่พร้อมจะกลับไปพัฒนาคน พัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิดของตัวเองได้อย่างแท้จริง และเป็นเสมือนแสงสว่างของเด็กด้อยโอกาส ที่ต้องการเพียงโอกาสให้พวกเขาได้พิสูจน์ตัวเอง
"จะต้องเป็น" - Google News
August 22, 2020 at 07:09PM
https://ift.tt/3aLi2Qu
ครูรัก(ษ์)ถิ่น...ผลผลิตจากท้องถิ่น - สยามรัฐ
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2YEtTvL
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ครูรัก(ษ์)ถิ่น...ผลผลิตจากท้องถิ่น - สยามรัฐ"
Post a Comment