ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร และคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดกิจกรรม ตลาดนัด “งานสภากับประชาชน” โดยมีเวทีเสวนา มินิคอนเสิร์ต และงานออกร้าน
น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง หรือวาดดาว คณะรณรงค์สมรสเท่าเทียม ได้ร่วมงานเสวนาโต๊ะกลม “ประชาชนกับสภา” ในงานดังกล่าวว่า จากการทำงานขับเคลื่อนกลไกในรัฐสภา การแก้ไขกฎหมายของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ เราใช้กลไกครั้งแรกตอนสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านกรรมาธิการสิทธิและมนุษยชน เพราะต้องการแก้ฎหมายที่ไม่เป็นธรรม แต่ภายใต้รัฐบาลนี้ได้ใช้หลายกรรมาธิการ คือ 1.คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งตรงประเด็น แต่ถามว่าความเชี่ยวชาญเป็นอย่างไร ดูเหมือนไม่ได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหา แต่เป็นเชิงศึกษาเพื่อจะแก้ปัญหา ซึ่งกลุ่มเปราะบางชายขอบ กรรมมาธิการก็มีมายด์เซ็ตแบบ “สงเคราะห์”
นอกจากเรื่องสมรมเท่าเทียม ก็มีการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญาที่เอาผิดหญิงทำแท้ง ซึ่งควรอยู่ในระบบสาธารณสุข ที่จะต้องวางเงื่อนไข ไม่ควรให้ผู้หญิงต้องโทษอาญาเพียงเพราะทำแท้งลูก ซึ่งกรรมาธิการรับไปศึกษา แต่ทำไมกลายเป็นแค่รายงาน เราจึงมีทางเลือกเดียวคือทำให้เป็นข่าว
น.ส.ชุมาพร กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ยื่นเรื่องสวัสดิการผ้าอนามัย และแพมเพิสผู้ใหญ่ที่มีราคาสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรยกเว้นภาษีหรือไม่ ได้ไปยื่นต่อกรรมาธิการชุดนี้ ซึ่งต้องใช้เส้นสาย ส.ส.ข้างในสภา ทั้งที่รัฐสภาควรมีช่องทางให้ประชาชนจองคิวเข้าไปยื่นเรื่องได้เอง โดยที่ไม่ต้องรู้จักกับ ส.ส. และการรับเรื่องต้องเป็นมิตร เจ้าหน้าที่สภาสอบถามเหมือนเป็นอาชญากร
“อีกเรื่องที่ยื่นคือ ยกเลิกกฎหมายการค้าประเวณี ถ้าไม่เหนียมอายที่จะคิด เรื่องนี้เกิดขึ้นในสังคมตั้งแต่สมัยไหน ทันทีที่เขาลุกขึ้นมาค้าบริการทางเพศ ยังมีกฎหมายเอาผิด ส่งผลให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ใช้เป็นช่องว่างในการกระทำความผิดมากมาย เช่น ขอใช้บริการทางเพศฟรี เรียกสินบน หากไม่สามารถจ่ายส่วยก็ใช้กฎหมายจับได้ทันที นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งทันทีที่มีการยื่นเรื่องยกเลิกกฎหมายนี้ ภาพข่าวออกมาก็กลายเป็นถูกบูลลี่อีก กลไกรัฐสภาไม่สร้างความรู้สึกที่เป็นมิตรเมื่อประชาชนที่ไปยื่นเรื่องต่อสภา และที่แย่ไปกว่านั้นคือหลังยื่นเรื่องแล้ว มองไม่ออกว่ากลไกเป็นอย่างไรต่อ มีการผลักภาระไปมาเหมือนว่าความเดือดร้อนของประชาชนคือตัวปัญหา แต่ความเป็นจริงปัญหาได้เกิดขึ้นแล้วและควรจะมีการแก้ไข” น.ส.ชุมาพรกล่าว
น.ส.ชุมาพรกล่าวต่อว่า หลังจากเรายื่นในกระบวนการรัฐสภา สู่การรวบรวมรายชื่อ ที่กระทบมากคือ ในขั้นกฤษฎีกา ซึ่งคือคนที่กระทำความรุนแรงทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมอย่างใหญ่หลวง เพราะมีการแก้ไขจนบิดเบี้ยวไปหมด “อยากให้กรรมาธิการดำเนินการกระบวนการต่างๆ อย่างเรื่องสมรมเท่าเทียม มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางออนไลน์ ถึง 60,000 คน มากเป็นประวัติการณ์ สิ่งที่รัฐสภาควรทำคือ หลังระดมความเห็นอย่าเก็บไว้ในหม้อ คุณต้องส่งเสียง ถ้าต้องจ่ายค่าซื้อโฆษณา ก็ต้องทำ เพราะเป็นกระบวนการที่ทำให้ทุกคนรับรู้ได้ ต้องผลักดันกลไกรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน อีกบทบาทคือ ลงพื้นที่อย่างถ้วนหน้า และทั่วถึง บ่อยครั้ง เพื่อที่จะลงไปฟังเสียงอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยปกป้องคนที่เห็นต่างได้จากการบูลลี่” น.ส.ชุมาพรกล่าวและว่า อยากเสนอให้มีการถ่ายทอดทุกการประชุมของคณะกรรมาธิการ ยกเว้นกรณีที่อาจจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ร้องทุกข์
"จะต้องเป็น" - Google News
September 26, 2020 at 02:08PM
https://ift.tt/309yl5H
'วาดดาว' จวก กลไกรัฐสภา ไม่เป็นมิตรกับประชาชน เสนอถ่ายทอดสดประชุม กมธ. - มติชน
"จะต้องเป็น" - Google News
https://ift.tt/3bIgTZQ
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2YEtTvL
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'วาดดาว' จวก กลไกรัฐสภา ไม่เป็นมิตรกับประชาชน เสนอถ่ายทอดสดประชุม กมธ. - มติชน"
Post a Comment